วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556

สารตกค้าง




"ผักผลไม้ ใช้ยา ฆ่าแมลง
สัตว์เลี้ยงแข่ง แย่งเสริม เพิ่มเร่งเนื้อ
มีสารพิษ ติดค้าง ล้างยังเหลือ
ปลาเค็มเจือ เผื่อนาน สารกันบูด"









วิธีการลดสารพิษตกค้างในผักและผลไม้ที่มาของข้อมูลจาก http://women.mthai.com/health/19433.html

วิธีการลดสารพิษตกค้างในผักและผลไม้ สามารถกระทำได้หลายวิธี เช่น
1. ปอกเปลือกแล้วล้างน้ำให้สะอาด
2. ล้างผักให้น้ำผ่านโดยเปิดน้ำให้แรงพอประมาณนาน 2 นาที หรือแช่ผักในน้ำสะอาด โดยล้างครั้งหนึ่งก่อนแล้วเด็ดเป็นใบๆ แช่ในอ่างน้ำนาน 15 นาที
3. ถ้าใช้น้ำส้มสายชูละลายน้ำความเข้มข้น 0.5% แช่นาน 15 นาที จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 80
4. ใช้ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 20 ลิตร แช่นาน 15 นาที จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ90
     เมื่อประมาณสองปีที่ผ่านมา พบอาหารนำเข้าจากต่างประเทศปนเปื้อนหลายรายการ เช่น น้ำแร่ธรรมชาติมีสารตะกั่วสูงกว่ามาตรฐาน กุ้งแช่แข็งนำเข้าพบสารไนโตรฟูแรนส์ และคลอแรมฟินิคอล บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปนเปื้อนเชื้อแบซิลลัส ซีเรียส ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ โดยก่อให้เกิดโรคได้สองแบบ แบบแรกเป็นชนิดถ่ายเหลวท้องเสียหลังบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ แบบที่สองก่อให้เกิดอาการอาเจียนอย่างรุนแรง โดยไม่มีอาการท้องเสียถ่ายเหลวร่วมด้วย การตรวจพบเชื้อนี้ในปริมาณเกินกว่า 1,000,000 ตัวต่ออาหารหนึ่งกรัม ถือว่ามีการปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคตามมาตราฐานสากล
     การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของไทยยังมีปัญหาอยู่มากพอสมควร ผลไม้ไทยหลายชนิดยังไม่สามารถส่งไปยังต่างประเทศได้ โดยเฉพาะผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว ทั้งนี้เพราะมีการตรวจพบว่ามีการใช้ยาฆ่าแมลงในปริมาณสูง ซึ่งประเทศไทยเองก็ยังไม่มีเทคนิคและกระบวนการที่กำจัดยาฆ่าแมลงที่ปะปนอยู่ในเนื้อส้มได้ สำหรับกรณีที่เป็นปัญหาสำหรับมังคุดและทุเรียนก็ยังเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวอยู่ตลอดเวลา
     ปัจจุบันมีการรณรงค์ความปลอดภัยของอาหาร โดยเน้นให้ปลอดภัยจากสารบอแรกซ์หรือที่เรียกว่าผงกรอบ สารฟอร์มาลินหรือ น้ำยาดองศพ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้านิยมนำมาแช่ผักและผลไม้ให้ดูสดอยู่ตลอดเวลา สารฟอกขาวหรือไฮโดรซัลไฟด์ กรดซาลิซิลิคหรือ สารกันรา รวมทั้งสารตกค้างหรือยาฆ่าแมลง ทั้งนี้ข้อกฎหมายกำหนดให้พบได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของปริมาณสารพิษที่ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในร่างกาย
     การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง ควรบริโภคอาหารหลายชนิด เนื่องจากไม่มีอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งที่ให้คุณค่าทางโภชนาการได้ครบถ้วน บริโภคอาหารในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อให้น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องการ หลีกเลี่ยงการรับประทานที่มีไขมันมากเกินไป บริโภคอาหารที่มีปริมาณของแป้งและกากใยให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่ปรุงด้วยปริมาณน้ำตาลจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารเค็มมากเกินไป
     อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ ผักและผลไม้ พืชตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักคะน้า หัวผักกาด บรอคโคลี่ ฯลฯ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลำไส้ส่วนปลาย กระเพาะอาหาร และอวัยวะระบบทางเดินหายใจ อาหารที่มีกากมาก เช่น ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชอื่นๆ ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ อาหารที่มีเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอสูง เช่น ผลไม้สีเขียว-เหลือง ป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร กล่องเสียง และปอด
     เบต้าแคโรทีน เป็นสารที่ร่างกายนำไปใช้สร้างวิตามินเอ ที่เรียกว่า โปรวิตามินเอ ช่วยบำรุงสุขภาพสายตา สร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง สารชนิดนี้มีมากในพืชผักสีแดง เหลือง ส้ม หรือเขียวเข้ม เช่น ยอดมะยม ผักโขม ตำลึง กระถิน ยอดแค ชะพลู และผักชีฝรั่ง ล้วนมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูงมากทั้งสิ้น



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น